เทรนด์การออกกำลังกายด้วยการวิ่งในปีนี้ ยังคงได้รับความนิยมและกระแสแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูจากกิจกรรมการวิ่งที่มีการจัดขึ้นทุกอาทิตย์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และแน่นอนเมื่อกระแสแรงแบบนี้ ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เริ่มต้นวิ่งนอกจากรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ “นาฬิกาวิ่ง” ก็ถือเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่ได้กลายเป็นของคู่กายนักวิ่งที่ต้องการจริงจังกับการวิ่ง หรือวิ่งด้วยโปรแกรมฝึกซ้อม เพื่อพัฒนาศักยภาพการวิ่งของตัวเอง การเลือกนาฬิกาวิ่งจึงเป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับนักวิ่ง ในปัจจุบันนาฬิกาวิ่ง หรือนาฬิกาออกกำลังกาย มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ หลายระดับราคา โดยฟังก์ชันการใช้งานในบางยี่ห้อก็อาจจะเหมือนกัน และแตกต่างกันออกไปตามที่ผู้ผลิตจะใช้เป็นจุดเด่น สำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกาวิ่ง นาฬิกาออกกำลังกาย ไม่รู้ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนดี
Garmin Forerunner 645 | Forerunner 645 Music

ลักษณะของเมนูและการใช้งาน Forerunner 645 จะแตกต่างกับรุ่นก่อนๆอย่าง FR235 และ FR735XT ที่ใช้ซอฟแวร์รุ่นเก่า ซึ่งมาในรุ่นใหมาได้เปลี่ยนให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพกว่า เหมือนและใกล้เคียงกับ FR935 และ Fenix 5 Series ที่ถูกปรับปรุงมาแล้ว
- เก็บเพลง / เล่นเพลงผ่านหูฟังบลูทูธ (เฉพาะรุ่น Music)
- การชำระเงินไร้สาย (Garmin Pay) ผ่านระบบ NFC
- เช็นเซอร์วัดชีพจร (Elevate Optical) เหมือนกับ FR935
- เพิ่มรองรับอุปกรณ์เสริมออกกำลังกาย Bluetooth Smart
- ติดตามสถานะการฝึกซ้อมได้ครบทั้งหมด
- โหมดว่ายน้ำที่รองรับในสระ (indoor pool swimming)
- โหมดเกี่ยวข้องกับฟิตเนส โยคะ, Row, Elliptical, Stepper
- โหมดกีฬาเสริม สกี และ สโนบอร์ด
- รองรับ Strava Live Segments สำหรับการปั่นจักรยาน
- ตอบข้อความกลับจากนาฬิกา (เฉพาะสมาร์ทโฟน Android
ก่อนเริ่มใช้งาน Forerunner 645 ควรเชื่อมต่อ Garmin Connect app (รองรับ IOS/Android) บนสมาร์ทโฟนเพื่อซิงค์ระหว่างกัน วิธีเชื่อมต่อง่ายๆตามนี้
- เปิดบลูทูธของระบบสมาร์ทโฟน (ห้ามเชื่อมต่อในขั้นตอนนี้)
- ดาวโหลด Garmin Connect บนสมาร์ทโฟนและติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์
- สร้าง Account ของ Garmin Connect เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของบุคคล
- เปิดการใช้งาน Forerunner 645 กดปุ่ม “ซ้ายข้างไว้” จนกว่าหน้าแสดงผล
- เลือกเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งบนสมาร์ทโฟน และ นาฬิกา โดยใช่รหัส PIN ที่ถูกสุ่มขึ้นมาเพื่อจับคู่
ราคา 14,990 บาท (Forerunner 645) และ 16,990 บาท (Forerunner 645 Music)
2. Suunto 9

Suunto 9 นาฬิกา GPS ออกกำลังกายประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมคุณสมบัติการอSuunto 9 (Non Baro) Multisport GPS Watch นาฬิกาออกกำลังกายมัลติสปอร์ต พร้อมคุณสมบัติอัจฉริยะ
คุณสมบัติเด่น
- วัดชีพจรผ่านข้อมือโดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง
- ติดตามกิจกรรมระหว่างวันได้ครบถ้วน ก้าวเดิน, แคลอรี่ และ ระยะเวลานอน
- โหมดกีฬามัลติสปอร์ตให้เลือกใช้งานมากกว่า 80 ชนิด รองรับการฝึกซ้อมและแข่งขัน
- FusedTrack ติดตามระยะทางได้ยาวนาน / ประหยัดพลังแบตเตอรี่ในโหมด Ultra Long runs ได้สูงสุด 120 ชั่วโมง
- Smart Reminders แจ้งเตือนแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน พร้อมเลือกโหมดแบตเตอรี่ได้ก่อนและหลังกิจกรรม
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 120 ชั่วโมง (25h/50h/120h)
- คำนวณความสูง (ขึ้น / ลง) ตามข้อมูลระบบ GPS เท่านั้น
- วัสดุกระจกหน้าจอในรูปแบบ Mineral Glass
- ระบบการแจ้งเตือนเสียงเรียกเข้า และ ข้อความ (ภาษาไทย) เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ
- รับประกันศูนย์ไทย 2 ปีเต็มดูแลการใช้งานจากทีมงานทีเอสเอ็ม
- กันน้ำได้ลึกสูงสุด 100 เมตร (พร้อมโหมดว่ายน้ำ)
คุณสมบัติ Suunto 9 Non Baro ที่แตกต่างกับ Suunto 9 Baro
- ไม่สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกของกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ความกดอากาศ ระดับน้ำทะเล และ การเตือนพายุ
- คำนวณความสูง (ขึ้น / ลง) ตามข้อมูล GPS เท่านั้น
- กระจกหน้าจอในรูปแบบ Mineral Glass
รายละเอียด Baro

- น้ำหนัก : 72 g / 2.54 oz
- สายขนาด : 24 mm
- รองรับข้อมือ : 130-230 mm
- ขนาดหน้าปัด : 50 mm / 1.197 in
- ความละเอียดหน้าจอ : 320 x 300px
ราคา 11,900 บาท
Garmin Instinct

ปิดท้ายด้วย Garmin Instinct นาฬิกาสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์รักการผจญภัยและชอบออกกำลังกาย มาพร้อมฟีเจอร์พื้นฐานแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการวัดชีพจร, ติดตามกิจกรรมในชีวิตประจำวัน, ระบบ GPS และอื่น ๆ อีกมากมาย รูปทรงดีไซน์ตัวนาฬิกาดูแข็งแรงทนทานด้วยมาตรฐาน U.S. military standard 810G สามารถทนความร้อน และกันน้ำ 100 เมตร ใช้เข็มทิศ 3 แบบแกน สามารถวัดความกดอากาศ ติดตามเส้นทางด้วยระบบ GPS, GLONASS และ Galileo รวมถึง TraceBack ระบบนำทางกลับไปยังจุดเส้นทางเริ่มต้น หรือวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ ส่วนอายุแบตเตอรี่ในโหมดสมาร์ตวอตช์ ทาง Garmin เคลมว่าชาร์จ 1 ครั้ง ใช้งานได้สูงสุด 14 วัน, โหมดฝึกซ้อม/GPS ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้งานได้สูงสุด 16 ชั่วโมง และโหมดประหยัดแบตเตอรี่ UltraTrac ใช้งานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง